ฟรี
  • ส23104 ประวัติศาสตร์6 (งดเข้าเรียน)
    เว็บไซต์การจัดการเรียนการสอนของครูมิตรสัน (บทเรียนออนไลน์) โรงเรียนเพชรพิทยาคม ต.ในเมือง อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ 67000

3.พัฒนาการด้านสังคม วัฒนธรรม ทวีปออสเตรเลีย

พัฒนาการด้านสังคม วัฒนธรรม ทวีปออสเตรเลีย

ความเสมอภาคของคนขาว

แม้ออสเตรเลียจะเป็นดินแดนที่อยู่ใกล้ทวีปเอเชีย อีกทั้งชนพื้นเมือง (ชาวอะบอลิจินิส) ก็เดินทางอพยพมาจากเอเชีย แต่ระยะแรกผู้บุกเบิกทั้งเจ้าหน้าที่ ทหาร และนักโทษต่างเป็นชาวตะวันตก และเกือบทั้งหมดมาจากอังกฤษและนับถือคริสต์ศาสนา ทำให้สังคมและวัฒนธรรมออสเตรเลียมีลักษณะเป็นตะวันตก อย่างไรก็ดี สังคมออสเตรเลียจัดเป็นสังคมที่มีความทัดเทียมกันทางชนชั้นทั้งภูมิหลังทางครอบครัวและชาติตระกูล เรียกว่า สังคมแบบสมภาค (Egalitarian Society) เพราะในช่วงของการอพยพนั้นไม่มีชนชั้นขุนนางซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลทางการเมืองเดินทางมาตั้งหลักแหล่งด้วย พวกอดีตนักโทษรวมทั้งบุตรหลานจึงสามารถสร้างฐานะและมีบทบาทสำคัญในการร่วมก่อตั้งอาณานิคม

ต่อมาในทศวรรษ ๑๘๕๐ ซึ่งเป็นช่วงที่มีการค้นพบทองคำนั้น ผู้อพยพส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นพวกชนชั้นกลาง ทำให้ขบวนการเรียกร้องและปฏิรูปกฎหมายการเลือกตั้งเข้มแข็งขึ้น อันนำไปสู่การขยายสิทธิการเลือกตั้งให้แก่ผู้ชายทุกคน โดยปราศจากการคัดค้านของชนชั้นขุนนางและเกิดขึ้นก่อนประเทศอังกฤษเป็นเวลาหลายปี ขณะเดียวกันการเข้ามาแสวงโชคของชาวจีนที่มีวัฒนธรรมความเป็นอยู่ เชื้อชาติ และลัทธิศาสนาที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจากชาวตะวันตก เช่น การไว้หางเปีย การรับประทานอาหารด้วยตะเกียบ การอยู่เป็นกลุ่ม การสูบฝิ่น การเซ่นไหว้บรรพบุรุษ เป็นต้น ก็ทำให้ชาวอาณานิคมออสเตรเลียเริ่มมีอคติต่อคนผิวเหลืองจนก่อให้เกิดความรังเกียจและต่อต้าน อันนำไปสู่การออกกฎหมายของรัฐต่างๆ เพื่อป้องกันการอพยพเข้ามาอยู่อาศัยของคนผิวเหลืองรวมทั้งคนผิวดำ

ต่อมาหลังจากออสเตรเลียจัดตั้งเป็นเครือรัฐออสเตรเลียแล้ว รัฐบาลกลางได้ออกพระราชบัญญัติหลายฉบับเพื่อกีดกันการอพยพของคนผิวเหลืองรวมทั้งคนผิวดำ กลายเป็นนโยบายของประเทศ เรียกว่า นโยบายออสเตรเลียสีผิวขาว (White Australia Policy) ซึ่งรัฐบาลออสเตรเลียได้ดำเนินนโยบายดังกล่าวติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายสิบปีและเพิ่งยกเลิกไปในช่วงทศวรรษ ๑๙๖๐

การสร้างสังคมนานาชาติและอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม

ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างออสเตรเลียกับอังกฤษทั้งด้านสังคมและวัฒนธรรมที่มีมาเริ่มเปลี่ยนแปลง การอพยพข้าวของชาวยุโรปตะวันออกและยุโรปใต้ที่เริ่มต้นใน ค.ศ. ๑๙๔๖ ทำให้ออสเตรเลียมีลักษณะเป็นสังคมนานาชาติที่มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม อีกทั้งวัฒนธรรมการกินอยู่และแนวคิดแบบอเมริกันที่ทหารอเมริกันนำมาเผยแผ่ในช่วงสงครามโลก ทำให้ชาวออสเตรเลียเริ่มเปิดตัวต่อสังคมโลกมากขึ้น การศึกษาในระดับอุดมศึกษาก็ขยายตัวอย่างมาก และมีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยในรัฐต่างๆ เพิ่มขึ้นกว่า  เท่าตัว อีกทั้งยังมีการจัดสรรทุนของรัฐบาลให้แก่นักศึกษาชาวเอเชียเข้าศึกษาในโครงการของรัฐ

นอกจากนี้ ในทศวรรษ ๑๙๖๐ รัฐบาลยังให้ความสนใจในวัฒนธรรมและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอะบอริจินิส มีการให้สิทธิพลเมืองอย่างสมบูรณ์แก่ชาวอะบอริจินิสใน ค.ศ. ๑๙๖๗ อีกทั้งต่อมายังส่งมอบ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าต่างๆ คืนให้แก่ชาวอะบอริจินิส เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมของเผ่าและสืบทอดวัฒนธรรมความเชื่อ ศิลปะวัฒนธรรมอะบอริจินิสก็ได้รับการสนับสนุนทางด้านการเงินจากรัฐบาลมีการแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาทางศิลปะขึ้น ทั้งศิลปินชาวออสเตรเลีย ก็ได้รับการกระตุ้นให้หันมาสนใจในรูปแบบของศิลปะอะบอริจินิส มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประสมประสานเพื่อเร้าความสนใจและจินตนาการของผู้ชมมากขึ้นจนกลายเป็นรูปแบบที่เป็นอัตลักษณ์ของศิลปะออสเตรเลียในปัจจุบัน

ใน ค.ศ. ๒๐๐๘ นายเควิน รัดด์ (Kevin Rudd) นายกรับมนตรีออสเตรเลียขณะนั้นได้กล่าวขอโทษชาวอะบอริจิ นิสอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกที่คนขาวได้สร้างความทุกข์ทรมานใจแก่ชาวอะบอริจินิสตลอดเวลา ๒๐๐ กว่าปีที่ผ่านมา นับเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสมานฉันท์อย่างเป็นรูปธรรมระหว่างชาวออสเตรเลียผิวขาวกับคนพื้นเมืองอย่างแท้จริง

 


เข้าดู : 247 ครั้ง